วันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

รังวัดหรืองานสำรวจ

รังวัดหรืองานสำรวจ PDF พิมพ์ อีเมล์
เขียนโดย Administrator   
เสาร์, 16 กุมภาพันธ์ 2008
         การรังวัดหรือการสำรวจ (Surveying) เป็นศิลปการหาความสัมพันธ์ของตำแหน่งของสิ่งต่าง ๆ บนพื้นผิวหรือใต้ผิวลงไป โดนอาศัยการวัดระยะทางราบ (distance) ทิศทาง (direction) และระดับความสูง (elevation) การรังวัดซึ่งเกี่ยวข้องกับการวัดความสัมพันธ์ของความสูงของจุดต่าง ๆ บนพื้นผิวโลก เรียกว่า การทำระดับ (levelling)
การรังวัดมีวัตถุประสงค์
   การรังวัดมีวัตถุประสงค์เพื่อที่จะทำแผนที่หรือแปลนของพื้นที่ต่าง ๆ ที่ต้องการรังวัด ศาสตร์ของการรังวัดได้ถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยที่มนุษย์เริ่มรู้จักอารยธรรมใหม่ ๆ เมื่อมนุษย์เริ่มมีความคิดที่จะแสดงความเป็นเจ้าของที่ดินที่ตัวเองครองอยู่ มนุษย์ได้คิดค้นวิธีที่จะทำแผนที่เพื่อแสดงแนวขอบเขตของที่ดินของตัว ดังนั้นการรังวัดในสมัยต้น ๆ จะมุ่งเฉพาะการทำแผนที่ที่ดินเท่านั้น เมื่อโลกเจริญขึ้นศาสตร์ของการรังวัดก็ได้พัฒนาและมีความสำคัญมากขึ้นเป็นลำดับ การก่อสร้างทางวิศวกรรมต่าง ๆ เช่น การสร้างถนน ทางรถไฟ การวางท่อระบายเสาไฟฟ้าแรงสูง ฯลฯ จะทำไม่ได้เลยถ้าไม่มีแผนที่ที่ถูกต้อง
                ในทางป่าไม้แผนที่และการรังวัดทำแผนที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง แผนที่ถือว่าเป็นเอกสารและหลักฐานสำคัญในการกำหนดพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า วนอุทยาน หรือพื้นที่อื่น ๆ ที่ประสงค์จะสงวนไว้เพื่อประโยชน์ในทางป่าไม้ ส่วนการทำแผนที่นั้นมีความจำเป็นในการกันพื้นที่ป่าสงวนออกไปบางส่วน เพื่อการใช้ประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อย่างเช่น การแบ่งปันที่ดินทำกินที่อยู่ในเขตป่าสงวนออกเป็นส่วน ๆ ให้แก่ประชาชนซึ่งไม่มีที่ทำกินเป็นของตนเอง หรือการรังวัดขอบเขตของสวนป่า ดังนั้นการศึกษาวิชาการรังวัดจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นจะขาดเสียมิได้ สำหรับผู้ที่ตอ้งการที่จะออกไปทำงานด้านป่าไม้           ถ้าจะแบ่งงานรังวัดตามวัตถุประสงค์แล้ว สามารถแบ่งได้เป็น 3 อย่าง คือ
1.) งานรังวัดที่ทำขึ้นเพื่อกำหนดขอบเขตของที่ดิน
2.) งานรังวัดที่ทำขึ้นเพื่อเก็บรายละเอียดสำหรับใช้ประโยชน์ในงานก่อสร้างทั้งของรัฐและเอกชน
3.) งานรังวัดที่มีขอบข่ายกว้างขวางและมีความถูกต้องสูง ซึ่งส่วนใหญ่จะดำเนินการโดยรัฐบาล
แก้ไขล่าสุดเมื่อ ( พฤหัสบดี, 28 กุมภาพันธ์ 2008 )
ุกลุ่มงานที่เกี่ยวเนื่องและทีมงานให้คำปรึกษา งานโยธา ดังนี้



ARJSTUDIO.com

www.arjstudio.com

Civil And Structural Engineers Co.,Ltd

www.casethai.com/


Athena Siam Limited

www.athenasiamltd.com/



หลักการวิเคราะห์ปัจจัยการเลือกซื้อบ้านจัดสรร

drsamaihemman.blogspot.com/

1 ความคิดเห็น:

  1. ชนิดของการสำรวจ
    เขียนโดย Administrator
    พฤหัสบดี, 28 กุมภาพันธ์ 2008
    ชนิดของการสำรวจสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ ดังนี้

    1.7.1 การสำรวจที่ดิน(Land Surveying) อาจแบ่งย่อย ๆ ได้อีก

    1. การสำรวจที่ดิน(Land Surveying) เป็นการสำรวจเพื่อกำหนดขอบเขตที่แน่นอนของที่ดินที่มีผู้ถือกรรมสิทธิ์อยู่ การคำนวณพื้นที่ การสำรวจวิธีนี้เป็นวิธีเก่าแก่ชนิดหนึ่ง
    2. การรังวัดเพื่อออกโฉนดที่ดิน (Cadastral Surveying) หรือการสำรวจเฉพาะแปลงที่มีรายละเอียดเกี่ยวกับการสำรวจที่ดินในเมืองและในที่ชนบท เพื่อวัตถุประสงค์ในการกำหนดแนวเขตและรายละเอียดต่าง ๆ ที่มีอยู่อย่างถูกต้อง ตามสิทธิการครอบครอง เพื่อออกหนังสือสำคัญสำหรับที่ดิน งานด้านการสำรวจนี้หมายถึง การสำรวจที่ดินของรัฐ เขตของเทศบาล การที่รัฐจะออกโฉนดที่ดินให้ได้นั้น จะต้องเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฏหมายอยู่มาก
    3 การสำรวจเพื่อวางผังเมือง (City Surveying) เป็นการสำรวจเพื่อวางผังสิ่งต่างๆ ในบริเวณเมือง เช่น การจัดแบ่งที่ดินออกเป็นเขต (zone) ต่าง ๆ การวางถนน การวางท่อประปา ท่อระบายน้ำ ฯลฯ
    ในปัจจุบันคำว่า city surveying มีความหมายกว้างออกไปรวมถึงการรังวัดพื้นที่ในตัวเมืองหรือใกล้ตัวเมือง เพื่อวางหมุดหลักเขตที่แน่นอน กำหนดเขตที่แน่อนและหารูปร่างลักษณะของพื้นดินศึกษาการใช้ประโยชน์ที่ดิน (land use) ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นประโยชน์อย่างกว้างขวางต่อการวางผังเมือง

    1.7.2การสำรวจเพื่อการก่อสร้าง (Construction Surveying)
    เป็นการสำรวจที่เกี่ยวกับงานวิศวกรรม และสถาปัตยกรรม ในข้อนี้รวมหมายถึงงานสำรวจชนิดต่าง ๆ ที่วิศวกรและสถาปนิกเกี่ยวข้องด้วย
    1. การสำรวจเส้นทาง (Route Surveying) เป็นการสำรวจเพื่อวางแนวทางสำหรับงานด้านวิศวกรรม และสถาปัตยกรรม เพื่อประโยชน์ทางด้านขนส่งหรือการคมนาคม เส้นทางในที่นี้หมายถึงทางหลวงแผ่นดิน ทางรถไฟ คลองทางระบายน้ำ ท่อประปา และการวางสายศักย์ส่งสูง
    2. การสำรวจเหมืองแร่ (Mine Surveying) มีความจำเป็นต่อการกำหนดตำแหน่งของงานทำเหมืองใต้ดิน หรือบนดินทั้งหมด โดยอาศัยหลักการของการสำรวจที่ดิน สำรวจภูมิประเทศ สำรวจแนวทาง ทั้งนี้เพื่อกำหนดตำแหน่งและทิศทางของอุโมงค์ ปล่อง และกำหนดอาณาเขตที่แน่นอน ตามสิทธิครอบครอง ตามคำขอเพื่อประกอบกิจการ

    1.7.3 การสำรวจเพื่อทราบรายละเอียด (Information Surveying)
    การสำรวจส่วนมากมีความมุ่งหมายเพื่อทำแผนที่และแผนภูมิ โดยเฉพาะกำหนดหมุดบังคับต่าง ๆ ซึ่งแยกกันอยู่บนผิวดิน การสำรวจดังกล่าวอำนวยประโยชน์ได้อย่างกว้างขวางในหลาย ๆ ด้าน คือ การจัดที่ดินของรัฐ การจัดทำแผนที่บริเวณป่าสงวน การทำแผนที่จำแนกประเภทที่ดิน ป่าไม้ การทำแผนที่เส้นทางเดินเรือบริเวณชายฝั่งทะเล แม่น้ำ การทำแผนที่แสดงทรัพยากรธรณีในที่ต่างๆ ทั่วทั้งประเทศ ทำแผนที่ประเทศ
    1. การสำรวจภูมิประเทศ (Topographic Surveying) เป็นการสำรวจลักษณะของภูมิประเทศเพื่อทำแผนที่ภูมิประเทศ (topographic map) ซึ่งการสำรวจชนิดนี้เป็นการหาลักษณะความกว้างยาวและสูงต่ำ (3 มิติ) ของภูมิประเทศ ทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและมนุษย์สร้างขึ้นแล้วแทนความสูงต่ำของภูมิประเทศเหล่านั้นด้วยเครื่องหมายแทนความสูง (relief representation) คือเส้นชั้นความสูง(contour) เส้นลายขวานสับ (hachures) การแรเงา (shading) การเน้นเส้นให้หนัก (form lines) การแยกสี (coloring) และภาพจำลอง (models)
    2. การสำรวจทางอุทกศาสตร์ (Hydrographic Surveying) มีความจำเป็นต่อการทำแผนที่ชายฝั่งทะเล พื้นที่เบื้องล่างของท้องคลอง ทะเลสาบ ท่าเรือ ลักษณะบนริมฝั่งทะเล วัดความเร็วของกระแสน้ำ ปริมาณของน้ำที่ไหลมาต่อเวลาหนึ่ง ๆ ระดับน้ำสูงขึ้นสูงสุดหรือลงต่ำสุด ฯลฯ ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการเดินเรือ การประปา แหล่งน้ำธรรมชาติ หรือการก่อสร้างเขื่อน ฝายขวางลำน้ำ เป็นต้น
    3. การสำรวจทำแผนที่จากรูปถ่ายทางอากาศ (Aerial Surveying or Photogrammetry) เป็นการทำแผนที่จากรูปถ่ายทางอากาศ วิธีการแบบนี้นับเป็นก้าวใหม่ในการสำรวจทำแผนที่ ซึ่งอำนวยประโยชน์ให้หลายประการและหลาย ๆ ด้านของการสำรวจที่กล่าวมาแล้ว สามารถทำแผนที่ได้อย่างรวดเร็ว และในบริเวณกว้าง วิธีการแบบนี้ทำได้โดยการถ่ายภาพด้วยกล้องชนิดที่ออกแบบพิเศษ โดยถ่ายจากเครื่องบินหรือจากจุดหนึ่งจุดใดบนพื้นดิน เมื่อได้รูปถ่ายมาแล้วก็นำรูปถ่ายนั้นมาทำเป็นภาพถ่ายต่อ (mosaic) หรือนำภาพถ่ายเหล่านี้มาเขียนเป็นแผนที่ โดยใช้เครื่องเขียนแผนที่จากภาพถ่ายหรือใช้ในการแปลภาพถ่ายก็ได้

    ตอบลบ